ครุวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล การศึกษาเปรียบเทียบคุณภาพน้ำทะเลบริเวณท่าบนและถ้ำพัง เกาะสีชัง จ.ชลบุรี

การมีโอกาสเข้าร่วมโครงการครุวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล เมื่อปิดภาคฤดูร้อนปีการศึกษา 2551 โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เป็นครั้งแรกของหลายสิ่งหลายอย่างสำหรับฉัน ไม่ว่าจะเป็นการไปใช้ชีวิตอยู่บนเกาะกลางทะเล  การขึ้นเรือ การวิเคราะห์คุณภาพน้ำทะเล และเป็นครั้งแรกสำหรับการอบรมเชิงปฏิบัติการที่ใช้เวลานานถึง 30 วัน

sichang-waterวันที่ 1 วันที่ 2 วันที่ 3 ได้รับฟังประสบการณ์จากอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ทางทะเลในหัวข้อเรื่องที่แตกต่างกันออกไป วันที่ 4 เริ่มพบคุณครูนักวิจัยพี่เลี้ยง เพื่อปรับแก้โครงการวิจัย ฉันรู้สึกคิดถึงบ้านมากขึ้นทุกวัน อยากกลับไปเที่ยวสงกรานต์กับครอบครัว ทุกคนทางบ้านให้กำลังใจฉันตลอดเวลาโดยเฉพาะกับคำพูดที่ว่า “เราต้องนึกถึงคนที่เขาให้โอกาสและยอมลงทุนกับเรา เราต้องขอบคุณเขาด้วยการทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด” 

ฉันจึงตั้งใจแก้โครงการวิจัยให้ตรงกับสิ่งที่สนใจจะศึกษา คือเรื่อง “การศึกษาเปรียบเทียบคุณภาพน้ำทะเลบริเวณท่าบนและถ้ำพัง  อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี” โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพน้ำทะเลบริเวณท่าบนและถ้ำพัง   และเปรียบเทียบข้อมูลคุณภาพน้ำทะเลในช่วงน้ำขึ้นและน้ำลง

เมื่อต้องมาอยู่ในห้องปฎิบัติการทางวิทยาศาสตร์ขนาดใหญ่  ทุกอย่างต้องเริ่มหัดใหม่หมด ตั้งแต่การฝึกใช้เครื่องมือต่างๆ  การเตรียมสารเคมี ระหว่างเตรียมสาร ฉันทำอุปกรณ์แตกไปหลายอย่าง  เวียนหัวจากการเหม็นสารเคมีบ้าง  ชั่งสารมาผิดบ้าง  ทำให้เสียเวลาเตรียมสารเคมีง่ายๆถึง 2 วัน แต่ฉันก็ได้เรียนรู้ว่า ทุกครั้งที่ผิดพลาดหรือมีอุปสรรค เมื่อเราแก้ไขหรือผ่านไปได้ก็จะเกิดการเรียนรู้ที่คงทน

พอถึงสัปดาห์ที่ 3 ฉันไม่มีความรู้สึกคิดถึงบ้านเลย ภาพเกาะสีชังตอนพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า และพลบค่ำพระอาทิตย์ตกดิน เป็นภาพที่สวยงามน่าประทับใจมาก  ประเพณีสงกรานต์ที่นี้มีความแตกต่างจากบ้านของฉัน และเป็นสงกรานต์กับเพื่อนครูจากทุกภาคของประเทศ ได้ความอบอุ่นสนุกสนาน และมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน งานวิจัยเสร็จสมบูรณ์อย่างรวดเร็ว ด้วยความเอาใจใส่ของคุณครูนักวิจัยพี่เลี้ยง ประสบการณ์การเรียนรู้ที่ได้ ฉันพร้อมจะนำไปใช้ ที่โรงเรียนได้ทันที

ขอบคุณ John dewey ที่เสนอทฤษฎีการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง ( Learning  by doing ) การเรียนแบบนี้ทำให้เราเข้าใจอย่างลึกซึ้ง  มีความสุข และมีแรงกระตุ้นให้อยากเรียนรู้ตลอดเวลา  การส่งเสริมนักเรียนให้เรียนด้วยการเผชิญสถานการณ์ คิดและทำจริง เป็นประสบการณ์ที่มีความหมาย  ไม่มีวันลืม และที่สำคัญการส่งเสริมให้ผู้เรียนทำงานเป็นกลุ่ม  ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น  ใช้สื่อการสอน และกิจกรรมที่หลากหลาย  การใช้แรงจูงใจระหว่างเรียน เช่น รางวัล การชมเชย คะแนน  การลงโทษ จะช่วยให้เกิดความสนใจ ตั้งใจ ขยันหมั่นเพียรในการเรียนและทำกิจกรรม
มากขึ้น

การเข้าค่ายอบรมครุวิจัยครั้งนี้ ทำให้ครูวิทยาศาสตร์โรงเรียนชนบทอย่างฉัน เปลี่ยนแนวความคิดจาก  “ อะไรก็ไม่มี ”  เป็น  “ ทุกอย่างมันประยุกต์ได้ ”  อย่างตอนนี้ นักเรียนที่โรงเรียนช่วยคิดอุปกรณ์ ตู้บ่มอุณหภูมิ 20 OCโดยให้ฝังไว้ใต้ดิน ใกล้ๆแหล่งน้ำ รับรองอุณหภูมิไม่แปรปรวน ตู้บ่มสำหรับตรวจสอบเชื้อแบคทีเรียโคลิฟอร์ม ก็ใช้ water  bath  ตั้งไว้ที่อุณหภูมิ  32 Oและที่สำคัญ ขวด BOD ที่ราคาแสนแพงสำหรับโรงเรียนของเรา  ตอนนี้ไม่แพงแล้ว มีวางอยู่ทั่วไป  นั่นคือ ขวดไวตามิลค์ ทูโก   ขวดมีสีใสและปริมาตร  300 ลูกบาศก์เซนติเมตรพอดี  และนักเรียนของฉันได้เริ่มทำโครงงานเกี่ยวกับการวิเคราะห์คุณภาพน้ำในบริเวณโรงเรียนและชุมชนไปบางส่วนแล้ว

ขอบคุณ  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ที่ทำให้มีโครงการดีๆแบบนี้  ขอบคุณสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ เกาะสีชัง  ขอบคุณคุณครูนักวิจัยพี่เลี้ยงสำหรับความเอาใจใส่  ขอบคุณเพื่อนครูครุวิจัยร่วมรุ่นทุกท่านที่มาจากทุกภาคของประเทศไทย และที่สำคัญ การเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส  การเปลี่ยนความขาดแคลน ไปเป็นการประยุกต์ใช้สิ่งที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับครูชนบท และนักเรียนตัวเล็กๆ ในชนบท  ที่จะไปเป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพของประเทศไทยและช่วยกัน “สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้” ต่อไป

ที่มา : วารสาร สควค. ฉบับที่ 7 หน้าที่ 7 เขียนโดย ครูมุกดา   บุตรวงค์  สควค.รุ่น 6 ครู คศ.1 ร.ร หนองทุ่มศรีสำราญวิทยา จ.ศรีสะเกษ 



Leave a Comment